นางกวักแม่น้อย หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

 

[ ชื่อพระ ] นางกวักแม่น้อย หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
[ รายละเอียด ] นางกวักแม่น้อย หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เลี่ยมทองเก่าพร้อมใช้

นางกวัก มีรูปลักษณะสำคัญเป็นสตรีไทยสมัยโบราณ ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้ายกดอก ประกอบด้วย พาหุรัด ทองกร และสร้อยสังวาล นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนแท่นทอง หัตถ์ขวายกงอขึ้นในลักษณะท่ากวักมือ หัตถ์ซ้ายส่วนมากจะถือถุงเงิน และจารึกอักขระขอม เป็น ‘หัวใจพระสีวลี’ ผู้เป็นเอตทัคคะทางโชคลาภ คือ นะ ชา ลิ ติ เป็นต้น
ความเป็นมาของ “นางกวัก” นั้น ตามประวัติ ‘พุทธสาวก’ ในสมัยพุทธกาล มีความตอนหนึ่งว่า ที่เมืองมิจฉิกาสีณฑนครซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากเมืองสาวัตถี มีครอบครัวหนึ่งประกอบอาชีพซื้อขายเลี้ยงชีพ สองสามีภรรยามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ “สุภาวดี” ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อได้ซื้อเกวียนมา 1 เล่ม เพื่อนำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น สุภาวดีขออนุญาตเดินทางไปด้วยเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ณ จุดนี้เอง ทำให้สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับพุทธสาวกแห่งพระพุทธองค์ถึง 2 องค์ ในหลายครั้งหลายครา คือ พระกัสสปเถรเจ้า และ พระสิวลีเถรเจ้า ซึ่งหลังจากแสดงธรรมแล้ว ทั้งสองได้กำหนดจิตประสิทธิประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัวทุกครั้ง  โดยเฉพาะ ‘สุภาวดี’ ซึ่งรับฟังอย่างตั้งใจจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก

เวลาผ่านไปไม่นาน  ครอบครัวนี้ก็ทำการค้าได้กำไรร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี เทียบได้กับ ธนัญชัยเศรษฐี บิดาของ ‘วิสาขา’ แห่งแคว้นโกศล  โดยบิดารู้ว่า สุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว จึงยึดมั่นปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา และใช้ทรัพย์สินที่ได้มาจากบุญบารมีของลูกสาวทำนุบำรุงศาสนามาโดยตลอด ผู้คนต่างรับรู้เรื่องราวและบารมีของสุภาวดี หรือ นางกวัก ที่เป็นที่มาแห่งความร่ำรวยและโชคลาภทางการค้า ทั้งเป็นผู้มีศีลธรรมและคุณธรรม แม้สุภาวดีจะตายไปแล้ว แต่อิทธิฤทธิ์ในทางโชคลาภและการค้าก็ยังคงเล่าสืบต่อกันมาถึงคนรุ่นหลัง มีผู้นับถือมากมายถึงกับปั้นรูป ‘สุภาวดี’ ไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง และความเชื่อดังกล่าวก็แพร่หลายเข้ามายังสุวรรณภูมิ

ตำนาน “นางกวัก” ของไทยเราก็มีเช่นกัน เป็นการกล่าวถึง ธิดาของปู่เจ้าเขาเขียว โดยสืบเนื่องมาจากเรื่อง ‘รามเกียรติ์’ ตอน พระรามออกตามหานางสีดา ความว่า พระรามได้พบกับท้าวอุณาราชพญายักษ์เจ้านครสิงขร จึงแผลงศรมาถูกยอดอกท้าวอุณาราช แล้วสาปให้ศรตรึงท้าวอุณาราชอยู่ภายในถ้ำเขาวงพระจันทร์ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของ จ.ลพบุรี และจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในถ้ำจนกระทั่งถึงศาสนาพระศรีอาริย์ ‘นางประจันทร์’ ธิดาของท้าวอุณาราช ทราบเรื่องก็เข้ามาเฝ้าปรนนิบัติและปฏิบัติธรรมเป็นเพื่อนบิดา ทั้งยังเอาใยบัวมาทอทำเป็นจีวรเตรียมไว้ถวายเมื่อถึงคราวพระศรีอาริย์เสด็จมา เพื่อสร้างกุศลอุทิศให้บิดา แต่ชาวเมืองเกรงว่าท้าวอุณาราชจะฟื้นคืนชีพ จึงพากันขับไล่และกลั่นแกล้งนางประจันทร์ต่างๆ นาๆ จนความทราบถึง “ปู่เจ้าเขาเขียว” ผู้เป็นสหายของท้าวอุณาราช จึงส่งธิดาองค์หนึ่ง ซึ่งมีรูปโฉมงดงามเป็นที่สุด เป็นที่เสน่หาแก่มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในแผ่นดิน มาเป็นเพื่อนนางประจันทร์ ปรากฏว่านับแต่ธิดา (แม่นางกวัก) ของปู่เจ้าเขาเขียวมาอยู่เป็นเพื่อนนางประจันทร์ ประชาชนผู้เคยเกลียดชังก็ต่างรักใคร่ช่วยเหลือเกื้อกูลไม่ขาด ความเกลียดชังที่เคยท่วมท้นนั้นเสื่อมสลายไปสิ้น ด้วยเหตุนี้ นางประจันทร์จึงตั้งชื่อให้ธิดาของปู่เจ้าเขาเขียวว่า “นางกวัก”

[ ราคา ] โทรถาม
[ สถานะ ] มาใหม่